เมนู

8. วาเสฏฐสูตร



[704] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ราวป่าอิจฉานังคละใกล้
หมู่บ้านอิจฉานังคละ. ก็สมัยนั้น พราหมณ์มหาศาลผู้มีชื่อเสียงเป็นอันมาก คือ
จังกีพราหมณ์ ตารุกขพราหมณ์ โปกขรสาติพราหมณ์ ชาณุโสณิพราหมณ์
โตเทยยพราหมณ์ และพราหมณ์มหาศาลเหล่าอื่นที่มีชื่อเสียง อาศัยอยู่ใน
หมู่บ้านอิจฉานังคละ ครั้งนั้น วาเสฏฐมาณพและภารทวาชมาณพ เที่ยวเดินเล่น
เป็นการพักผ่อนอยู่ มีถ้อยคำพูดกัน ในระหว่างนี้เกิดขึ้นว่า ท่านผู้เจริญ อย่างไร
บุคคลจึงจะชื่อว่าเป็นพราหมณ์ ภารทวาชมาณพกล่าวอย่างนี้ว่า ท่านผู้เจริญ
บุคคลเป็นผู้เกิดดีทั้งสองฝ่าย คือ ทั้งฝ่ายมารดาและฝ่ายบิดา มีครรภ์เป็นที่ถือ
ปฏิสนธิอันบริสุทธิ์ตลอด 7 ชั่วบรรพบุรุษ ไม่มีใครคัดค้านติเตียนด้วยอ้างถึง
ชาติได้ ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล บุคคลจึงจะชื่อว่าเป็นพราหมณ์ วาเสฏฐมาณพ
กล่าวอย่างนี้ว่า ท่านผู้เจริญ บุคคลเป็นผู้มีศีลและถึงพร้อมด้วยวัตรด้วยเหตุ
เพียงเท่านี้แล บุคคลจึงจะชื่อว่าเป็นพราหมณ์ ภารทวาชมาณพไม่อาจให้
ว่าเสฏฐมาณพยินยอมได้ ถึงว่าเสฏฐมาณพก็ไม่อาจให้ภารทวาชมาณพยินยอม
ได้เหมือนกัน.
[705] ครั้งนั้นแล ว่าเสฏฐมาณพได้ปรึกษากะภารทวาชมาณพว่า
ท่านภารทวาชะ พระสมณโคดมศากยบุตรนี้ เสด็จออกผนวชจากศากยสกุล
ประทับอยู่ ณ ราวป่าอิจฉานังคละ ใกล้หมู่บ้านอิจฉานังคละ ก็กิตติศัพท์อันงาม
ของท่านพระสมณโคดมนั้น ขจรไปแล้วอย่างนี้ว่า แม้เพราะเหตุนี้ ๆ พระผู้มี
ตระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ทรงถึงพร้อมด้วย